การเมืองคือการจัดสรรอำนาจในการบริหารทรัพยากรและการปกครองบ้านเมือง ตัวมันเองไม่มีอะไรเสียหาย เป็นสิ่งดี มีความจำเป็น ทำให้เกิดกติกาสังคม ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข
แต่เมื่อเราอยู่ในโลกที่ไม่สมบูรณ์ เจือด้วยความบาป มันก็ย่อมเห็นความเสื่อมไม่มากก็น้อย ซึ่งมีอยู่ในทุกแวดวง ไม่ใช่แค่การเมือง ลองมองไปที่สื่อ มองไปที่การศึกษา มองไปที่ระบบยุติธรรม มองไปที่ระบบสาธารณสุข มองไปที่แวดวงธุรกิจ หรือแม้แต่มองไปที่แวดวง NGO ฯลฯ ทุกแวดวงล้วนมีความเสื่อมถอยอันเกิดจากความบาป
ถ้าเราเข้าใจแบบนี้ เราก็จะไม่ไปติดอยู่กับกับดักทางอารมณ์ที่เกิดจากปัญหาการเมือง ลึกๆ มันเป็นเรื่องของโลกความบาป ปัญหาการเมืองเป็นแค่ฝีหนึ่งเม็ดที่แตกออกมา เนื้อในอยู่ที่รากไม่ใช่อยู่ที่แผลที่แตกออกมา
พระเจ้าให้คริสเตียนมีบทบาทสำคัญคือการเป็นเกลือและแสงสว่าง เข้าใจโลกแต่ไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของโลก เห็นใจคนอื่น แต่ไม่เดินตามความไม่ดีของผู้อื่น ทำหน้าที่ตามพลเมืองที่ดี แต่ไม่ทำหน้าที่รับใช้ใครให้ทำผิดบาป
พระเยซูบอกว่าทางแคบจะนำไปถึงทางแห่งความรอด เราเป็นคริสเตียน พื้นที่เดินของเราจะแคบกว่าคนในโลกที่ไม่มีพระเจ้า แต่มันเป็นเส้นทางที่พระเจ้าปรารถนาให้เราเดิน และนั่นเป็นทางเดียวที่เราเลือกได้
เราแสดงความเห็นทางการเมืองได้ แต่เราไปร่วมในการใช้ความรุนแรงไม่ได้ เราวิพากษ์วิจารณ์การเมืองได้ แต่เราด่าทอด้วยความหยาบคายเสียดสีประชดประชันไม่ได้ เราเกลียดชังความเลวร้ายของนักการเมืองบางคนได้ แต่เราปฏิเสธที่จะรักเขาไม่ได้
ขอพระเจ้าโปรดอวยพรพี่น้องที่เป็นคอการเมืองทั้งหลาย ให้ระมัดการดำเนินชีวิตให้ดี อย่าให้เหมือนคนไร้ปัญญาแต่ให้เหมือนคนมีปัญญา (เอเฟซัส 5:15)
ความคิดเห็น